ในปัจจุบันนี้เรื่องของการโรคเอดส์นั้นก็เป็นเรื่องที่หลายๆคนก็มักที่จะให้ความสนใจและให้ความคำนึงถึงอย่างมากที่สุดด้วยจะยิ่งเป็นเรื่องที่ดีเพราะว่าในเรื่องของโรคเอดส์นั้นหากเรารู้จักที่จะหาข้อมูลหรือศึกษาให้เข้าใจในเรื่องของโรคเอดส์นั้นก็จะยิ่งเป็นเรื่องที่ดีกับเราเองอย่างยิ่งด้วย

และที่สำคัญในเรื่องของโรคเอดส์นั้นก็จะมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่อยู่ในระยะแรกๆอาจจะไม่ค่อยมีอาการที่ทำให้เราผิดสังเกตเท่าไหร่นั้นเอง อาจจะมีอาการปวดหัว ตัวร้อนก็เป็นได้อีกด้วยและต่อมาก็จะเป็นในส่วนของระยะอาการสงบ อาการนี้จะไม่มีอาการใดที่แสดงได้ชัดแทบจะไม่รู้เลยว่าตัวเองมีโรคนี้ในตัวหรือเปล่าอาจจะต้องทำการเจาะเลือดดูถึงจะสามารถที่จะทราบได้ว่าเรามีโรคนี้หรือไม่นั้นเอง

และสำหรับคนที่ไม่ได้รับการรักษา อาจเกิดอาการเจ็บป่วยรุนแรงได้เร็วขึ้น โดยอาการเรื้อรังที่อาจเกิดขึ้นได้และเป็นสัญญาณของการติดเชื้อที่พัฒนาไปสู่เอดส์ในระดับอ่อน ๆ ได้แก่ มีไข้ อ่อนล้าหมดแรง ท้องร่วง น้ำหนักลด ต่อมน้ำเหลืองบวม มีเชื้อราในช่องปาก เป็นงูสวัดซึ่งอาจจะเป็นอยู่แบบนี้เป็นๆหายๆได้อีกเหมือนกัน

และต่อมาจะเป็นระยะเอดส์ อันนี้จะเป็นระยะสุดท้ายของการติดเชื้อเอชไอวี หากผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษา การติดเชื้อจะพัฒนาไปสู่เอดส์ภายในระยะเวลาประมาณ 10 ปี เมื่อป่วยเป็นเอดส์ ภูมิคุ้มกันจะถูกทำลายจนเสียหายหนักและไม่สามารถต้านทานต่อเชื้อใดๆได้เลย อันนี้ก็จะส่งผลทำให้เรานั้นอาจจะเสียชีวิตได้

ในเรื่องของโรคเอชไอวีนั้นเราสามารถที่จะเรียนรู้และป้องกันไม่ให้เกิดได้ด้วยการสวมถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องที่ไม่ดีในตนเองขึ้นได้อีกด้วย อย่างน้อยการที่เราได้รู้จักที่จะรักตัวเองนั้นเป็นสิ่งที่ดีเพราะร่างกายของแต่ละคนนั้นมีภูมิต้านทานที่ไม่เหมือนกันด้วยและถ้าหากเรารู้จักที่จะให้ความสนใจแล้วก็จะยิ่งเกิดเรื่องที่ดีๆขึ้นนั้นก็คือเราก็จะได้ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของโรคเอดส์นั้นเอง

สิ่งนี้จึงเป็นเรื่องที่เราเองก็ควรที่จะต้องให้ความสนใจและให้ความสำคัญมากๆด้วยเพราะยิ่งเราได้ให้ความสนใจได้มากเท่าไหร่จะช่วยทำให้ร่างกายยิ่งเกิดความสุขอย่างที่สุดที่ไม่ต้องมาเจ็บป่วยกับโรคเอดส์ด้วย  ดังนั้นโรคนี้เป้นโรคที่น่ากลัวที่เราเองก็ควรที่จะต้องให้การระมัดระวังด้วยเพราะถ้าหากเราได้ให้การระมัดระวังแล้วเราก็จะไม่ต้องมาเจอกับโรคนี้อีกด้วย