ต้อกระจกคืออะไร

ต้อกระจกเป็นภาวะทางตาทั่วไปที่เกิดขึ้นเมื่อเลนส์ตาขุ่นหรือทึบแสงทำให้การมองเห็นพร่ามัวหรือพร่ามัว ต้อกระจกมักพัฒนาอย่างช้าๆ เมื่อเวลาผ่านไป และเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการชราตามธรรมชาติ ส่วนใหญ่มักเกิดกับผู้ที่มีอายุ 50 ปี ขึ้นไป นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากปัจจัยอื่นๆ เช่น การบาดเจ็บ โรค หรือการใช้ยาบางชนิดในระยะยาว

โดยปกติเลนส์ตาจะใสและยืดหยุ่นได้ ทำให้เปลี่ยนรูปร่างเพื่อโฟกัสวัตถุในระยะต่างๆ ได้เมื่อต้อกระจกก่อตัวขึ้น เลนส์จะมีความโปร่งใสน้อยลงและยืดหยุ่นน้อยลง ทำให้แสงผ่านได้ยากขึ้นและทำให้ดวงตาโฟกัสได้อย่างถูกต้อง ซึ่งอาการโดยทั่วไปของต้อกระจกมักจะเป็นเรื่องของการมองเห็นไม่ชัดหรือพร่ามัว เห็นภาพซ้อน ไวต่อแสง มองเห็นลำบากในเวลากลางคืน และสีออกเหลือง ต้อกระจกยังทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงค่าสายตาของแว่น และทำให้ยากต่อการอ่านหรือทำกิจกรรมอื่นๆ ที่ต้องใช้การมองเห็นที่ชัดเจนด้วย 

ขั้นตอนการผ่าตัดต้อกระจก

การผ่าตัดต้อกระจกเป็นขั้นตอนทั่วไปที่ดำเนินการเพื่อเอาเลนส์ที่ขุ่นมัวในดวงตาซึ่งเรียกว่าต้อกระจกออก แล้วใส่เลนส์เทียมเข้าไปแทนที่ หรือที่เรียกว่าเลนส์แก้วตาเทียม (IOL) ในระหว่างการผ่าตัดต้อกระจก ศัลยแพทย์จะทำแผลเล็กๆ ในดวงตาและใช้เครื่องมือพิเศษเพื่อสลายและนำเลนส์ที่ขุ่นออก อาจทำได้โดยใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์ เลเซอร์ หรือเทคนิคอื่นๆ เมื่อลอกต้อกระจกออกแล้ว ศัลยแพทย์จะใส่เลนส์เทียมอันใหม่เข้าไปในดวงตา ซึ่งจะแทนที่เลนส์ธรรมชาติและช่วยให้มองเห็นได้ชัดเจน การผ่าตัดต้อกระจกมักเป็นการผ่าตัดแบบผู้ป่วยนอกและใช้เวลาประมาณ 15-30 นาทีจึงจะเสร็จสิ้น ผู้ป่วยจะได้รับยาชาเฉพาะที่เพื่อทำให้ตาชา และอาจให้ยาระงับประสาทอ่อนๆ เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยผ่อนคลาย

เราจะรู้ได้อย่างไรว่าควรผ่าต้อกระจกหรือไม่ 

การผ่าตัดต้อกระจกเป็นหนึ่งในขั้นตอนการผ่าตัดที่มีความเสี่ยงต่อการเสียการมองเห็นอยู่พอสมควร เพราะมันเป็นขั้นตอนของการใช้เลเซอร์ผ่าที่ดวงตาโดยตรง จึงอาจทำให้หลายๆ คนไม่กล้าเสี่ยงเข้ารักการผ่าตัดต้อกระจกซึ่งอาจเป็นเพราะยังไม่รู้สึกว่าค่าสายตาแย่เท่าที่ควรหรือยังสามารถใช้สายตาได้อย่างไม่มีปัญหา ซึ่งตามความเป็นจริงการมีความคิดเช่นนี้ไม่ได้ผิดแต่อย่างใดเพราะหากยังสามารถใช้ชีวิตได้โดยปกติหมายความว่าต้อกระจกยังไม่รุนแรงมาก การตัดสินใจผ่าตัดต้อกระจกมักขึ้นอยู่กับว่าต้อกระจกรบกวนกิจกรรมประจำวันและคุณภาพชีวิตของบุคคลมากน้อยเพียงใด หากต้อกระจกก่อให้เกิดปัญหาการมองเห็นที่สำคัญซึ่งไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยแว่นตาหรือคอนแทคเลนส์ ก็อาจแนะนำให้ทำการผ่าตัดต้อกระจกทันทีเพราะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ต่อไปนี้คือเช็คลิสต์สำหรับบุคคลที่ควรค่าแก่การผ่าต้อกระจกเพื่อการตัดสินใจจะได้ง่ายขึ้น 

  1. มองเห็นได้ยากในสภาพแสงสลัวหรือแสงน้อย
  2. สายตาพร่ามัวหรือพร่ามัวซึ่งส่งผลต่อกิจกรรมประจำวัน เช่น อ่านหนังสือ ขับรถ หรือดูทีวี
  3. การมองเห็นภาพซ้อนหรือภาพซ้อน
  4. มองเห็นรัศมีหรือแสงจ้ารอบๆ แสงไฟ โดยเฉพาะในเวลากลางคืน
  5. จำเป็นต้องเปลี่ยนแว่นตาบ่อยๆ
  6. สีที่ปรากฏค่อนข้างมีความจางหรือติดเหลือง
  7. ไม่สามารถทำกิจกรรมประจำวันได้ เช่น ขับรถหรือทำอาหาร เนื่องจากสายตาไม่ดี

สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตว่าต้อกระจกมักพัฒนาอย่างช้าๆ เมื่อเวลาผ่านไป และในระยะแรก ต้อกระจกอาจไม่ทำให้เกิดปัญหาการมองเห็นที่สังเกตได้ขนาดนั้น อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดมันอาจทำให้สูญเสียการมองเห็นและส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของบุคคลใด้ในอนาคต

แนะนำว่าคุณหรือคนใกล้ชิดของคุณที่เป็นต้อกระจกได้รับการตรวจตาเป็นประจำเพื่อติดตามความก้าวหน้าของต้อกระจกและพิจารณาว่าจำเป็นต้องผ่าตัดต้อกระจกหรือไม่ จักษุแพทย์ที่มีประสบการณ์จะสามารถช่วยตัดสินใจหรือแนะนำให้ได้ว่าการผ่าตัดต้อกระจกนั้นเหมาะสมหรือไม่ และหารือเกี่ยวกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นและประโยชน์ของการผ่าตัดขึ้นอยู่กับความต้องการและสถานการณ์เฉพาะของแต่ละบุคคล